ตัวอย่าง ข้อสอบ ตำแหน่ง นักวิชาการคลังปฏิบัติการ
1. เงินที่ส่วนราชการจ่ายให้แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งยืมเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการหรือการปฏิบัติราชการอื่นใด ทั้งนี้ ไม่ว่าจะจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายหรือเงินนอกงบประมาณ หมายความถึง
ก. เงินทดรองจ่าย ข. เงินสำรอง
ค. เงินยืม ง. เงินสำรองจ่าย
2. กำปั่นหรือตู้เหล็กหรือหีบเหล็กอันมั่นคงซึ่งใช้สำหรับเก็บรักษาเงินของทางราชการ หมายความถึง
ก. ตู้นิรภัย ข. หีบเหล็ก
ค. ตู้เก็บของ ง. ตู้เหล็ก
3. เงินทั้งปวงที่อยู่ในความรับผิดชอบของส่วนราชการ นอกจากเงินงบประมาณรายจ่าย เงินรายได้แผ่นดิน เงินเบิกเกินส่งคืน และเงินเหลือจ่ายปีเก่าส่งคืน หมายความถึงเงินในข้อใด
ก. เงินรายได้แผ่นดิน ข. เงินเบิกเกินส่งคืน
ค. เงินเหลือจ่ายปีเก่าส่งคืน ง. เงินนอกงบประมาณ
4. ระบบการบริหารการเงินการคลังภาครัฐซึ่งปฏิบัติงานโดยผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์โดยตรง หรือผ่านช่องทางอื่นที่กระทรวงการคลังกำหนดก่อนนำข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ คือข้อใด
ก. GFMIT ข. GFMIS
ค. GFMMT ง. GFMNT
5. ข้อใดไม่ใช่ข้อมูลหลักของผู้ขาย
ก. เลขที่สัญญา ข. เลขประจำตัวประชาชน
ค. เลขประจำตัวผู้เสียภาษี ง. ไม่มีข้อใดไม่ใช่ข้อมูลหลัก
6. ผู้รักษาการในระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง การเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลัง พ.ศ. 2551 คือผู้ใด
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ข. กรมบัญชีกลาง
ค. ปลัดกระทรวงการคลัง ง. นายกรัฐมนตรี
7. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับการจ่ายเงินสด
ก. เงินทดรองราชการ ข. เบี้ยหวัด
ค. การจ่ายเงินที่มีวงเงินต่ำกว่าห้าพันบาท ง. ถูกทุกข้อ
8. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับการเขียนจำนวนเงินในเช็ค
ก. ตัวอักษรให้เขียนหรือพิมพ์ให้ชิดเส้น และชิดคำว่า “บาท”
ข. ขีดเส้นหน้าจำนวนเงินทั้งตัวเลขและตัวอักษร
ค. ขีดเส้นตรงหลังชื่อสกุล ชื่อบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนจนชิดคำว่า “หรือผู้ถือ”
ง. ถูกทุกข้อ
9. สิ้นปีงบประมาณ ให้หัวหน้าหน่วยงานซึ่งรับใบเสร็จรับเงินไปดำเนินการจัดเก็บเงิน รายงานให้ผู้ใดทราบ
ก. ผู้อำนวยการกองคลัง ข. หัวหน้าส่วนราชการ
ค. ถูกทั้ง ข้อ ก. และ ข. ง. ไม่มีข้อใดกล่าวถูกต้อง
10.สิ้นปีงบประมาณ หัวหน้าหน่วยงานต้องรายงานให้ผู้อำนวยการกองคลังหรือหัวหน้าส่วนราชการในราชการบริหารส่วนภูมิภาคทราบไม่เกินเมื่อใด
ก. อย่างช้าไม่เกินวันที่ 31 ตุลาคมของปีงบประมาณถัดไป
ข. อย่างช้าไม่เกินวันที่ 31 สิงหาคมของปีงบประมาณถัดไป
ค. อย่างช้าไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคมของปีงบประมาณถัดไป
ง. อย่างช้าไม่เกินวันที่ 31 มกราคมของปีงบประมาณถัดไป
1. เงินที่ส่วนราชการจ่ายให้แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งยืมเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการหรือการปฏิบัติราชการอื่นใด ทั้งนี้ ไม่ว่าจะจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายหรือเงินนอกงบประมาณ หมายความถึง
ก. เงินทดรองจ่าย ข. เงินสำรอง
ค. เงินยืม ง. เงินสำรองจ่าย
2. กำปั่นหรือตู้เหล็กหรือหีบเหล็กอันมั่นคงซึ่งใช้สำหรับเก็บรักษาเงินของทางราชการ หมายความถึง
ก. ตู้นิรภัย ข. หีบเหล็ก
ค. ตู้เก็บของ ง. ตู้เหล็ก
3. เงินทั้งปวงที่อยู่ในความรับผิดชอบของส่วนราชการ นอกจากเงินงบประมาณรายจ่าย เงินรายได้แผ่นดิน เงินเบิกเกินส่งคืน และเงินเหลือจ่ายปีเก่าส่งคืน หมายความถึงเงินในข้อใด
ก. เงินรายได้แผ่นดิน ข. เงินเบิกเกินส่งคืน
ค. เงินเหลือจ่ายปีเก่าส่งคืน ง. เงินนอกงบประมาณ
4. ระบบการบริหารการเงินการคลังภาครัฐซึ่งปฏิบัติงานโดยผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์โดยตรง หรือผ่านช่องทางอื่นที่กระทรวงการคลังกำหนดก่อนนำข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ คือข้อใด
ก. GFMIT ข. GFMIS
ค. GFMMT ง. GFMNT
5. ข้อใดไม่ใช่ข้อมูลหลักของผู้ขาย
ก. เลขที่สัญญา ข. เลขประจำตัวประชาชน
ค. เลขประจำตัวผู้เสียภาษี ง. ไม่มีข้อใดไม่ใช่ข้อมูลหลัก
6. ผู้รักษาการในระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง การเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลัง พ.ศ. 2551 คือผู้ใด
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ข. กรมบัญชีกลาง
ค. ปลัดกระทรวงการคลัง ง. นายกรัฐมนตรี
7. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับการจ่ายเงินสด
ก. เงินทดรองราชการ ข. เบี้ยหวัด
ค. การจ่ายเงินที่มีวงเงินต่ำกว่าห้าพันบาท ง. ถูกทุกข้อ
8. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับการเขียนจำนวนเงินในเช็ค
ก. ตัวอักษรให้เขียนหรือพิมพ์ให้ชิดเส้น และชิดคำว่า “บาท”
ข. ขีดเส้นหน้าจำนวนเงินทั้งตัวเลขและตัวอักษร
ค. ขีดเส้นตรงหลังชื่อสกุล ชื่อบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนจนชิดคำว่า “หรือผู้ถือ”
ง. ถูกทุกข้อ
9. สิ้นปีงบประมาณ ให้หัวหน้าหน่วยงานซึ่งรับใบเสร็จรับเงินไปดำเนินการจัดเก็บเงิน รายงานให้ผู้ใดทราบ
ก. ผู้อำนวยการกองคลัง ข. หัวหน้าส่วนราชการ
ค. ถูกทั้ง ข้อ ก. และ ข. ง. ไม่มีข้อใดกล่าวถูกต้อง
10.สิ้นปีงบประมาณ หัวหน้าหน่วยงานต้องรายงานให้ผู้อำนวยการกองคลังหรือหัวหน้าส่วนราชการในราชการบริหารส่วนภูมิภาคทราบไม่เกินเมื่อใด
ก. อย่างช้าไม่เกินวันที่ 31 ตุลาคมของปีงบประมาณถัดไป
ข. อย่างช้าไม่เกินวันที่ 31 สิงหาคมของปีงบประมาณถัดไป
ค. อย่างช้าไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคมของปีงบประมาณถัดไป
ง. อย่างช้าไม่เกินวันที่ 31 มกราคมของปีงบประมาณถัดไป